1.วิกิพีเดีย
ข้อดีของวิกิ : ใช้งานง่ายมาก x ความมีประโยชน์ = ความมีส่วนร่วมสูง
วิกิ
เป็นตัวอย่างของเครื่องมือทางเครือข่ายสังคม ที่มีพื้นฐานการใช้งานบนเว็บและมีรูปแบบอิสระ
เนื่องจากวิกิ เป็นเว็บที่มีความเชื่อมโยงเว็บเพจภายใน
แต่ละเพจประกอบด้วยแนวความคิด (ชื่อ) และมีคำอธิบายแนวความคิดนั้น (บทความ) ผู้
ใช้ได้รับอนุญาตให้เข้าไปปรับปรุงเนื้อหาของบทความและสร้างบทความใหม่
ตัวอย่างของวิกิที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดี ก็คือ วิกิพีเดีย
สารานุกรมออนไลน์นี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2001 และมีบทความเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้าน บทความ (ภาษาอังกฤษ)
คุณภาพของสารสนเทศในวิกิพีเดียคล้ายกับสารานุกรมบริเทนนิกา ความที่ใช้งานง่าย
จึงมีส่วนทำให้คนเข้ามาร่วมเขียนบทความสูงมาก
วิกิ = ระบบการจัดการเนื้อหา + กรุ๊ปแวร์
วิกิเป็นเครื่องมือในการจัดการความรู้
โดยการรวมเครื่องมือ 2 ประเภทอยู่ด้วยกัน
กล่าวคือ เป็นระบบการจัดการเนื้อหา วิกิถูกใช้ในการจัดการเว็บเพจ (บทความ) และ
เอกสารอื่นๆ สารสนเทศในวิกิ
ถูกจัดเก็บเป็นหมวดหมู่และสามารถค้นคืนได้ อีกประการหนึ่ง เป็นลักษณะของกรุ๊ปแวร์
วิกิถูกใช้ในการเพิ่มความสามารถในการสื่อสารและความร่วมมือ
เมื่อหน้าวิกิถูกปรับเปลี่ยนโดยใครก็ตาม คนอื่นๆ ก็สามารถการสร้างเอกสารเว็บได้
การรวมกันระหว่างระบบการจัดการเนื้อหาและระบบความร่วมมือเป็นระบบเดียวกัน นั้น
มีทั้งความสำคัญและความแตกต่าง เป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างความรู้
(ด้วยความร่วมมือกัน) และ เครื่องมือสำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้ภายใน
(การจัดการเนื้อหา) รวมเข้าเป็นหนึ่งเดียว
การใช้วิกิในองค์กร:
แพร่กระจายเหมือนไวรัส
คนในองค์กรขยายวงการใช้วิกิจากการจัดการเนื้อหาเพียงอย่างเดียว
ไปเป็นการรวมจากสอง และกลายเป็นกลุ่ม วิกิถูกใช้กันอย่างอิสระ แผ่ขยายการใช้งานไปทั่วทั้งองค์กร
ด้วยความตระหนักในความสำคัญของการใช้วิกิ โดยใช้วิกิ เพื่อ
การนำไปใช้
|
ลักษณะของการใช้งาน
|
การผลิตเอกสาร:
|
เอกสาร ในรูปแบบต่างๆ
เช่น เวิร์ด เอ็กเซล พีดีเอฟ เป็นต้น สามารถถูกแนบเข้าไปในวิกิ
เนื้อหาของเอกสารสามารถถูกทำให้สืบค้นได้
วิกิจึงเหมือนทำหน้าที่เป็นระบบพื้นฐานของการจัดการเอกสาร
|
การจัดการโครงการ:
|
วิกิสามารถติดตามสถานภาพของโครงการได้
อย่างง่ายๆ ทั้ง วาระการประชุม สถานภาพของรายงาน รายงานความก้าวหน้า มาตรฐานและแนวปฏิบัติสามารถถูกสร้างได้ในวิกิ
วิกิบางโปรแกรมมีโปรแกรมการจัดการโครงการติดไว้ด้วย
|
การทำงานร่วมกัน:
|
วิกิเป็นเสมือนพื้นที่ในการทำงานร่วมกัน
เอกสารถูกนำขึ้นและปรับปรุงผ่านเว็บ โดยอนุญาตให้หลายๆ
คนเห็นและเปลี่ยนเอกสารโดยที่ไม่ต้องอัพโหลด ดาวน์โหลด หรือต้องอีเมล
ผู้ใช้สามารถทำงานร่วมกันเหมือนเป็นร่างเอกสาร รายชื่อ และรายงาน
โดยไม่ต้องส่งเอกสารกลับไป-มา การแก้ไขทั้งหมดสามารถดูได้และเปลี่ยนกลับไป-มาได้
|
การสื่อสารระหว่างกลุ่มคนที่อยู่คนละภูมิภาค:
|
เนื่องจากวิกิสามารถเข้าถึงผ่านเว็บ
สารสนเทศจึงสามารถถูกแลกเปลี่ยนได้อย่างง่ายท่ามกลางผู้ใช้ที่อยู่คนละซีกโลก
|
อีเมลกลุ่ม:
|
หน้าของวิกิสามารถส่งไปยังกลุ่มของผู้ใช้
ผู้ใช้สามารถดู เพิ่มเอกสาร และเปลี่ยนแปลงเอกสารบนเพจด้วยตนเอง
ข้อความที่เพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงจะถูกส่งไปกลุ่มผู้ใช้ทั้งหมดได้ทันที
|
การสร้างความรู้ส่วนตัว/เผยแพร่ภายนอก:
|
ด้วยระบบของวิกิ
แต่ละหน้าสามารถมีระบบความปลอดภัยติดอยู่
ดังนั้นผู้ใช้สามารถที่จะสร้างเอกสารส่วนตัวได้
บางแห่งใช้วิกิในการสร้างความรู้ทั้งภายในและเผยแพร่ภายนอกองค์กรด้วย
|
การผลิตสารสนเทศและผลิตเอกสาร:
|
บางองค์กรใช้วิกิในการเก็บ
สารสนเทศและเอกสารที่ผลิตขึ้นเอง เพจของวิกิ สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและง่าย
โดยการเลือกผู้ใช้และจัดการระบบให้สามารถใช้ได้ทั้งลูกค้าและหุ้นส่วน
|
การตลาด/การรับผิดชอบต่อสังคม:
|
วิกิถูกใช้สำหรับการติดตามแนวโน้มของตลาด
การรวบรวมข้อมูล ข้อมูลการขายแต่ละวัน ข้อมูลลูกค้าและหุ้นส่วน
การสื่อสารกับลูกค้า
|
การพัฒนาซอฟต์แวร์
และการสนับสนุนเทคโนโลยีสารสนเทศ:
|
เกือบทุกอย่างที่เกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้รับการสนับสนุนโดยการใช้วิกิ
กล่าวคือ เอกสารการติดตามเรื่อง การใช้งานภายใน การออกบบคุณภาพและกระบวนการ
เอกสารอ้างอิง การตั้งค่าระบบ การเขียนคุณลักษณะของโปรแกรม
คู่มือการติดตั้งโปรแกรม ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ใช้วิกิในลักษณะงานดังกล่าว
ในการติดตามเอกสารและบันทึกเกี่ยวกับการติดตั้งและบักที่เกิดขึ้น
และใช้ในการบันทึกแนวปฏิบัติที่ดี ข้อมูลที่ต้องสนับสนุนผู้ใช้
ระบบที่ถูกร้องขอสำหรับฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่
คู่มือการติดตั้งและการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์
|
สมุดหน้าเหลืองของบริษัท:
|
วิกิสามารถบันทึกข้อมูลของผู้ใช้และความเกี่ยวข้องกับโครงการต่างๆ
หรือขุมความรู้ของคนในบริษัท
|
การเป็นเวทีของลูกค้า:
|
วิกิถูกใช้เป็นพื้นที่ให้ลูกค้าแสดงความคิดเห็นหรืออภิปรายได้
|
การจัดการข้อมูลส่วนตัว:
|
วิกิถูกใช้เพื่อการจัดการข้อมูล
ส่วนตัว โดยการบันทึกง่ายๆ รายการที่ต้องทำ วิธีการทำ ตารางการไปเที่ยว รูปภาพ
สมุดที่อยู่ ปฏิทินและบล็อก ภายนอกบริษัท
ผู้ใช้ใช้ในการติดตามหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสมาชิกและเพื่อนๆ
|
ชุมชนนักปฏิบัติ:
|
มีหลายตัวอย่างที่วิกิถูกนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนสารสนเทศระหว่างชุมชนนักปฏิบัติด้วยกันหรือกลุ่มอื่นๆ
|
การสร้างสรรค์แนวความคิด:
|
วิกิถูกใช้เป็นพื้นที่ในการระดมสมอง
การอภิปรายแนวความคิดต่างๆ
|
2. Webblog
Web Blog หรือ Blog คือเวบไซค็ทีให้พื้นที่ส่วนตัวแก่ผู้ใช้บริการ โดยมีฟั่งชั่นต่างต่างให้เลือกใช้งาน เช่นพื้นที่สำหรับเขียนประวัติ ไดอารี่ กล่องบทความ อัลบั้มรูป เวบบอร์ด สามารถโพสบทความหรือเรื่องราวของสินค้า กิจกรรมที่บริษัทดำเนินการ ปรับแต่งหน้าตาได้เหมือนเวบไซค์ สามารถจดทะเบียนเป็นชื่อเจ้าของได้ เชื่อมต่อ social network เช่น facebook ,Tweeter ,Goolgle โพสคลิบวีดีโอ หรือ ทำเป็นอัลบั้มรูปถ่ายสินค้าส่วนตัว
ที่สำคัญ blog สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบได้ง่าย ข้อมูลจะสามารถเก็บไว้ได้ตลอด สามารถเก็บไว้ดูเองหรือจะเปิดให้ผู้อืนเข้ามาดูได้ หรือใช้ในรูปสมาชิกก็ได้ ปัจจุบันนิยมใช้ Blog เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์ แจ้งข่าวสารให้กับลูกค้า เช่น ถ้าเราทำร้านค้าออนไลท์ จะพบว่าการที่ใครจะเข้ามาซื้อของเราไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากการแข่งขันสูง ความเชื่อมั่นในตัวสินค้า ดังนั้นเราจำเป็นต้องสร้างBlog ขึ้นมาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้า อธิบายรายละเอียด ให้ความรู้เกี่ยวกับคำแนะนำสินค้า เรานำ Blog เข้ามาจัดการ เนื่องจาก Web Blog สามารถ up date ได้ง่าย และมีการให้ข่าวสาร หรือเรื่องที่ใกล้เคียงสินค้า เพื่อแนะนำให้คนเข้ามายังเวบไซค์ร้านค้าออนไลน์ ด้วยการเชื่อม Blog กับเวบไซค็หลักของเรา
3. Video conference
รู้จักกับ Video Conference
การประชุมทางไกล (Videoconferencing) เป็นเทคโนโลยีรูปแบบหนึ่งของความร่วมมือองค์กร
ในการใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารระยะไกล ที่ลดเวลา ลดต้นทุนงบประมาณ การสื่อสารในปัจจุบัน
ช่วยให้การดำเนินชีวิตคนเรามีความสะดวก สบายมากขึ้น ปัจจุบันผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ที่มีเครือข่าย
อยู่ทั่วประเทศสามารถประชุมกันได้ โดยไม่ต้องมาเข้าห้องประชุมที่เดียวกัน
ในการใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารระยะไกล ที่ลดเวลา ลดต้นทุนงบประมาณ การสื่อสารในปัจจุบัน
ช่วยให้การดำเนินชีวิตคนเรามีความสะดวก สบายมากขึ้น ปัจจุบันผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ที่มีเครือข่าย
อยู่ทั่วประเทศสามารถประชุมกันได้ โดยไม่ต้องมาเข้าห้องประชุมที่เดียวกัน
ความหมาย
การประชุมทางไกล (Videoconference) คือ การนำเทคโนโลยีสาขาต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ กล้องโทรทัศน์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมผสมผสาน
เป็นการประชุมที่ผู้เข้าร่วมประชุมอยู่กันคนละสถานที่ ไม่จำกัดระยะทางสามารถประชุมร่วมกันและมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกันได้
การส่งข้อความและภาพสามารถส่งได้ทั้งทางสายโทรศัพท์คลื่นไมโครเวฟ
สายไฟเบอร์ออฟติกของระบบเครือข่าย และการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียม โดยการบีบอัดภาพเสียงและข้อความ
กราฟิกต่างๆ ไปยังสถานที่ประชุมต่างๆ
ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถเห็นภาพและข้อความต่างๆเพื่ออภิปรายร่วมกันได้เพื่อสนับสนุนในการประชุมให้มีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์
Video
conference หรือการประชุมทางไกล ถูกออกแบบมาเพื่อให้คนหรือกลุ่ม คน
ซึ่งอยู่กันคนละสถานที่สามารถติดต่อกันได้ทั้งภาพและเสียง โดย
ผ่านทางจอภาพซึ่งอาจเป็นคอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์ ผู้ชมที่ฝั่งหนึ่งจะเห็นภาพของอีกฝั่งหนึ่งปรากฏอยู่บนจอโทรทัศน์ของ
ตัวเองและ ภาพของตัวเองก็จะไปปรากฏยังโทรทัศน์ของฝั่งตรงข้ามเช่นเดียวกัน
คุณภาพของภาพและเสียงที่ได้จะขึ้นอยู่กับความเร็วของช่องทางสื่อสารที่
ใช้เชื่อมต่อระหว่างทั้งสองฝั่งอุปกรณ์ที่ต้องมีในระบบประชุมทางไกลนี้ ก็ ได้แก่
จอโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์, ลำโพง,ไมโครโฟน,
กล้อง และอุปกรณ์ Codec ซึ่งเป็นตัวเข้ารหัสสัญญาณภาพและเสียงที่ได้จากกล้องและไมโครโฟนสง
ผ่านเส้นทางสื่อสารไปยังอีกฝั่งหนึ่ง รวมถึงถอดรหัสสัญญาณที่ได้รับ
มาอีกฝั่งให้กลับเป็นสัญญาณภาพและเสียงแสดงบนจอและลำโพงนั่นเองเส้นทางสื่อสารขนาด 384
Kbps ขึ้นไปก็สามารถให้คุณภาพภาพในระดับที่ยอมรับได้
โดยอาจใช้ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ISDN หรือ ATM
เป็นต้น ข้อดีของการประชุมทางไกล คือสามารถให้ความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกัน
ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งจะประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
และยังช่วยแก้ปัญหาจราจรได้ทางหนึ่ง